หลักการทำงานของสารกรองแอนทราไซท์

เมื่อน้ำไหลผ่านชั้นของสารกรองแอนทราไซท์ อนุภาคแขวนลอยขนาดใหญ่จะถูกดักจับไว้ที่ผิวหน้าของเม็ดแอนทราไซท์ ในขณะที่อนุภาคขนาดเล็กและสารอินทรีย์จะถูกดูดซับเข้าไปในรูพรุนของเม็ดแอนทราไซท์ ทำให้น้ำที่ไหลออกมามีความใสสะอาด

ข้อดีของสารกรองแอนทราไซท์ เมื่อเทียบกับสารกรองทราย

• ประสิทธิภาพในการกรองสูงกว่า: แอนทราไซท์มีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่าทราย ทำให้สามารถดักจับอนุภาคได้มากขึ้น
• อัตราการไหลสูงกว่า: แอนทราไซท์มีรูพรุนขนาดใหญ่ ทำให้น้ำไหลผ่านได้เร็วขึ้น
• อายุการใช้งานยาวนานกว่า: แอนทราไซท์มีความแข็งแรงทนทานต่อการสึกกร่อนมากกว่าทราย

การติดตั้งและบำรุงรักษา

การติดตั้งสารกรองแอนทราไซท์นั้นค่อนข้างง่าย โดยทั่วไปจะบรรจุลงในถังกรองที่ออกแบบมาตามคุณภาพของน้ำดิบ อัตราการไหลของน้ำที่ต้องการต่อชั่วโมง และรอบcycleในการbackwash หลังจากการติดตั้งแล้ว ควรมีการล้างย้อนกลับ (backwash) เป็นระยะเพื่อทำความสะอาดและป้องกันไม่ให้ตัวกรองอุดตัน

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและวิธีแก้ไข

• การอุดตันของตัวกรอง: เกิดจากการที่อนุภาคแขวนลอยสะสมมากเกินไป วิธีแก้ไขคือทำการล้างย้อนกลับ(back wash)
• การลดประสิทธิภาพการกรอง: เกิดจากการที่แอนทราไซท์เสื่อมสภาพ เม็ดเริ่มแตก หรือมีการปนเปื้อนของสารอื่นๆ วิธีแก้ไขคือเปลี่ยนสารกรองใหม่

การเลือกใช้สารกรองแอนทราไซท์ที่เหมาะสม

การเลือกใช้สารกรองแอนทราไซท์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น

• คุณภาพของน้ำดิบ: น้ำที่มีความขุ่นสูงหรือมีปริมาณสารแขวนลอยมาก จะต้องใช้แอนทราไซท์ที่มีขนาดเม็ดละเอียด
• ขนาดของอนุภาคที่ต้องการกรอง: หากต้องการกรองอนุภาคขนาดเล็กมาก ควรเลือกใช้แอนทราไซท์ที่มีขนาดเม็ดละเอียด
• อัตราการไหลของน้ำ: อัตราการไหลของน้ำจะส่งผลต่อขนาดของถังกรองและปริมาณของแอนทราไซท์ที่ใช้